Winter at Doi Samer Dao, Nan, Phrae Day4 Phra That Cho Hae, Phra That Chom Chaeng
อาทิตย์ 30 พ.ย. 2008
ตอนเช้าออกเดินทางกลับแปดโมงเช้า ขับออกมาจากเมือง เจอหมอกเป็นครั้งแรก โชคดีที่เจอวันกลับ ถ้าเจอตอนอยู่บนดอยคงจะเสียเวลาเที่ยวมากกว่านี้
แวะที่จังหวัดแพร่ วัดพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล ขณะนี้ยังบูรณะอยู่
ป้ายชื่อวัด
พระประธานเป็นพระพุทธชินราชจำลอง
วัดพระธาตุจอมแจ้ง อยู่ใกล้ ๆ กับวัดพระธาตุช่อแฮ ห่างกันแค่ 2กม.
โบสถ์
พระประธาน
เจดีย์เก่าแก่ ด้านหลังวัด
เจดีย์พระธาตุ
รูปส่งท้าย
แล้วตีรถกลับกรุงเทพ แวะกินข้าวที่จุดพักรถแล้วยิงยาวถึงกรุงเทพเลย รถติดตรงคอขวดอยู่สองถึงสามจุดแต่ก็กลับถึงกรุงเทพฯหกโมงเย็นจนได้
สรุประยะทางไปกลับทริปนี้ กรุงเทพฯ ถึง น่าน ทั้งสิ้น 1,784.30 กิโลเมตร ขับรถไปเอง ใช้น้ำมันไป 146.95 ลิตร ใช้แก๊สโซฮอล์ 95 ราคาลิตรละ 18.29-19.03 บาท รวมค่าน้ำมัน 2,734 บาท ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าสถานที่ และอื่น ๆ รวมแล้ว 4,044 บาท รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้สำหรับ 4 คน ทั้งหมด 6,778 บาท ต่อคน ๆ ละ 1,694.50 บาท
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551
หนาวนี้ที่ ดอยเสมอดาว เที่ยวน่าน แพร่ กันเถอะ วันที่สี่ พระธาตุช่อแฮ พระธาตุจอมแจ้ง จ.แพร่ Winter at Doi Samer Dao, Nan, Phrae Day4 Phra That Cho Hae
ป้ายกำกับ: แพร่, วัดพระธาตุจอมแจ้ง, วัดพระธาตุช่อแฮ, Phrae, Phra That Cho Hae, Phra That Chom Chaeng
เขียนโดย GM TOUR ที่ 02:14 0 ความคิดเห็น
วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2551
หนาวนี้ที่ ดอยเสมอดาว เที่ยวน่าน แพร่ กันเถอะ วันที่สาม ทะเลหมอกบนดอยเสมอดาว Winter at Doi Samer Dao, Nan, Phrae Day3 Sea Mist at Doi Samer Dao
Winter at Doi Samer Dao, Nan, Phrae Day3 Sea Mist at Doi Samer Dao
เสาร์ 29 พ.ย. 2008
ตื่นหกโมงเช้า เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และเราก็ได้เห็นทะเลหมอกที่สวยงามมาก ๆ ไปเที่ยวดอยมาหลายที่ก็ยังไม่เคยเห็นทะเลหมอกจัง ๆสักที ในที่สุดก็ได้มาเห็นที่นี่ ที่ดอยเสมอดาว สุดยอดจริง ๆ
แสงแรกของดวงอาทิตย์
ผาหัวสิงห์ในตอนเช้า
หลังจากถ่ายรูปจนสะใจแล้วเราก็เก็บเต๊นท์แล้วเคลื่อนย้ายลงมาที่ผาเชิดชู หรือผาชู้นั่นเอง มาชมทะเลหมอกที่ผาชู้และธงชาติที่มีสายชักธงยาวที่สุดในประเทศไทย ลงมาถึงก่อนแปดโมงเช้าเล็กน้อย คิดว่าจะเห็นเขาชักธงซะหน่อย แต่ปรากฏว่าไม่มีการชักธงแฮะ
ที่ผาชู้มีกาน้ำร้อนไฟฟ้าไว้บริการ เราก็เอาน้ำดื่มที่เตรียมมาใส่กาน้ำ พอเดือดแล้วก็ใส่น้ำร้อนในบะหมี่ถ้วยที่เตรียมมาเป็นมื้อเช้า รอดไปอีกมื้อ
ทะเลหมอกที่ผาชู้
จากนั้นก็ขับรถไปเที่ยวแก่งหลวง เป็นจุดที่แม่น้ำน่านปะทะหินจนเป็นฟอง สวยดีครับ แต่ถ้าใครจะเข้าไปดูใกล้ ๆ ต้องปีนหินลุยน้ำไป เราเลยดูอยู่ไกล ๆ เท่านั้น
ที่ริมฝั่งน้ำมีแมงมุมทำรังอยู่บนพื้นเต็มไปหมด น้ำเกาะใยแมงมุมพราวเลย สวยมาก
วิวสะพานข้ามแม่น้ำน่านตรงระหว่างทางเข้าแก่งหลวง
ถ้าจะกลับเข้าตัวเมืองเลยก็จะมีเวลาเหลือเยอะไป พวกเราเลยขับลงไปที่แพชาวประมง ปากนาย เพื่อกินข้าวกลางวันมีช่วงถนนที่กำลังขยายทางอยู่ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สั่งอาหารมาเป็นปลาทุกจานเลย กินปลาจนสะใจไปเลย ปลาเผาที่นี่แปลกกว่าที่อื่นเพราะน้ำเยอะมาก ไม่ใช่ปลาเผาแห้ง คงเป็นเพราะวิธีการเผา เขาห่อแผ่นฟอยด์แล้วเผา น้ำในตัวปลาออกมาแล้วมันไปไหนไม่ได้ก็อยู่ในห่อนั้น มันก็เลยเหมือนปลานึ่งมากกว่าปลาเผา แกะห่อออกมาน้ำเต็มจานปลาเผาเลย
จุดชมวิวก่อนลงไปที่แพประมง ทางเข้าชำรุด และทางเดินเท้ารกมาก น่าจะมีคนดูแลให้ดีกว่านี้
แต่วิวก็สวยคุ้มค่ามากครับ ดูแล้วเหมือนทะเลเลย ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ วิวหมู่เกาะอ่างทองเลยล่ะ
แล้วก็กลับเข้าเมือง โดยแวะวัดไปตลอดทาง วัดแรกที่แวะคือวัดบุญยืน อ.เวียงสา
พระประธาน เป็นพระพุทธรูปยืนปางเปิดโลก
วัดพระธาตุเขาน้อย ไปชมวิวเมืองน่าน ไหว้พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางแจ้ง
องค์พระธาตุเขาน้อย
วัดพญาวัด อยู่ก่อนถึงวัดพระธาตุเขาน้อย
มีเจดีย์จามเทวี ทรงสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลง
วัดสวนตาล
ไปไหว้พระเจ้าทองทิพย์ พระประธานของวัด
และชมเจดีย์วัดสวนตาล
วัดภูมินทร์ ตอนกลางคืน
ชมงานแสดงของน้อง ๆ นักเรียนตอนกลางคืน เพราะช่วงที่ไปมีงานโอทอป หรืองานกาชาดพอดี
เจดีย์ช้างค้ำ ตอนกลางคืน
วัดหัวข่วง ตอนกลางคืน
พักที่โรงแรมเทวราช กินอาหารเย็นที่สุดถนนสุมนเทวราชร้านเรือนแก้วริมน้ำน่าน แต่ที่นี่มองไม่เห็นแม่น้ำน่านเลยเพราะริมแม่น้ำไม่ได้ติดไฟ รสชาติอาหารอร่อยใช้ได้ แต่บรรยากาศสู้ร้านที่กินวันแรกไม่ได้ กินเสร็จก็กลับโรงแรมนอน
ป้ายกำกับ: ดอยเสมอดาว, น่าน, วัดบุญยืน, วัดพญาวัด, วัดภูมินทร์, วัดสวนตาล, Doi Samer Dao, Nan
เขียนโดย GM TOUR ที่ 12:46 0 ความคิดเห็น