วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2552

ทริปวันเดียว เที่ยวอยุธยา ช่วงปีใหม่ Ayutthaya One Day Trip

Ayutthaya One Day Trip




ทริปนี้จะออกไปทางเส้นบางบัวทองก็ได้ แต่เราไปขึ้นทางด่วนที่ด่านบางซื่อ คลองประปา แล้วไปจนสุดทาง ออกถนนกาญจนาภิเษก สักพัก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 347 วิ่งไปประมาณ 22กิโลเมตรแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข3263 จะเจอป้ายบอกทางไปวัดท่าการ้อง ตามป้ายไปจนถึงวัดเลยครับ



IMG_4330.jpg

ถึงวัดท่าการ้องแล้ว

IMG_4295.jpg

รูปปั้นเณรน้อย

IMG_4303.jpg

พระประธาน หลวงพ่อยิ้ม หรือหลวงพ่อรัตนมงคล

IMG_4309.jpg

ริมฝั่งน้ำ

IMG_4325.jpg

วัดนี้เลื่องลือว่าห้องน้ำสะอาดแถมมีห้องติดแอร์ด้วย แต่ห้องน้ำผู้ชายที่เข้าไปเห็นแต่พัดลม หาห้องที่มีแอร์ไม่เจอครับ

IMG_4326.jpg

ภายในบริเวณวัด

IMG_4341.jpg

IMG_4350.jpg

มีพระธาตุให้สักการะด้วย

IMG_4362.jpg


แล้วไปต่อที่วัดกษัตรราธิราชวรวิหาร

IMG_8259.jpg

เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร

IMG_4375.jpg

IMG_4379.jpg

IMG_4382.jpg

ข้อมูลวิชาการได้จากเว็บสถาบันอยุธยาศึกษา และเว็บไทยตำบลดอทคอม

IMG_4432.jpg

ฟ้าสวยมาก ๆ

IMG_8230.jpg

IMG_8252.jpg

พระพุทธรูปประจำพระวิหาร

IMG_4401.jpg

วัดไชยวัฒนาราม สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าปราสาททอง

IMG_4436.jpg

IMG_4437.jpg

IMG_4450.jpg

สวยงามมากครับ แต่แดดแรงมากก็เลยขอดูอยู่ด้านนอกเท่านั้น ไม่ได้เข้าไปเดินด้านใน

IMG_8271.jpg

IMG_8274.jpg

วิหารพระมงคลบพิตร

IMG_8288.jpg

มีการซ่อมแซมหลายครั้ง ทั้งสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ต่อมาสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้มีการสร้างวิหารพระมงคลบพิตรขึ้นใหม่ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

IMG_8283.jpg

IMG_4500.jpg

มีพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ ไม่มีประวัติว่าสร้างตั้งแต่เมื่อใดและใครสร้าง

IMG_4472.jpg

IMG_4481.jpg

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยู่ใกล้ ๆ ติดกับวิหารพระมงคลบพิตร วัดนี้ก็ชมดูอยู่แค่ด้านนอกครับ

IMG_4493.jpg

IMG_4495.jpg

วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดสำคัญที่สุดของราชสำนักอยุธยา มีฐานะเป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำอยู่ในวัด

IMG_4491.jpg

เจดีย์ทั้งสามองค์นี้ มักพูดกันติดปากว่า "เจดีย์สามพี่น้อง" อันที่จริงแล้ว เจดีย์ทั้งสามมีฐานะเปรียบดังเครือญาติได้ดังนี้ เจดีย์องค์แรกคือเจดีย์พระบิดา สร้างเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เจดีย์องค์กลาง คือเจดีย์โอรสองค์ใหญ่ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และองค์สุดท้าย คือเจดีย์โอรสองค์รอง สมเด็จพระรามาธิปดีที่ 2 ถ้าจะเปรียบดังเครื่องญาติแล้วก็คือ เจดีย์ พ่อ ลูกคนโต ลูกคนเล็ก จึงจะถูกต้อง

IMG_4499.jpg
IMG_8314.jpg

วัดหน้าพระเมรุสร้างขึ้นในสมัยของพระรามาธิบดีที่ 2 พ.ศ. 2046 โดยมีชื่อดั่งเดิมว่า วัดพระเมรุราชิการาม วัดหน้าพระเมรุนี้เคยเป็นที่พระมหาจักรพรรดิใช้ทำสัญญาสงบศึกกับพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง เมื่อ พ.ศ. 2092 คราวสงครามช้างเผือก
เป็นวัดเดียวใน กรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังมีสภาพดี เพราะทหารพม่าได้มาตั้งกองบัญชาการอยู่ที่นี่

IMG_4508.jpg

หน้าบันของอุโบสถเป็นไม้แกะสลัก ลงรักปิดทองประดับกระจก รูปแกะสลักเป็นพระนารายณ์ทรงครุฑ ซึ่งเหยียบอยู่บนเศียรของพญานาค ล่างลงไปเป็นราหู ล้อมรอบด้วยหมู่เทวดาประนมมืออยู่ 26 องค์ ประตูเข้าด้านหน้าอุโบสถมีถึง 3 บาน ช่องกลางซึ่งด้านบนประดับเป็นยอดปราสาทมีขนาดใหญ่ตามคติที่ว่าเป็นประตูสำหรับบุคคลสำคัญเท่านั้น ต่อมาได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นซุ้มหน้าต่างแทนประตู

IMG_4511.jpg

IMG_4515.jpg

ภายในมีพระพุทธรูปทรงเครื่ององค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่ง ประทับนั่งปางมารวิชัย หันพระพักตร์ไปทางทิศใต้
พระพุทธรูปทรงเครื่องอาจหมายถึง พระศรีอาริยเมตไตรย ผู้ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ห้าที่จะได้เสด็จมาสั่งสอนและนำสังคมอันอุดมสมบูรณ์สงบสุขในอนาคต ปัจจุบันพระองค์ยังเป็นเทพบุตรอยู่ในสรวงสวรรค์จึงทรงเครื่องเช่นเทวดาทั้งหลาย หรืออาจอธิบายว่าเป็นเรื่องของพุทธประวัติ คือ ตอนที่พระพุทธเจ้าทรมานพญามารชมพูบดี ด้วยพญามารอวดตนมั่งคั่งร่ำรวย แต่งกายสวยงาม พระพุทธเจ้าจึงเนรมิตพระองค์ให้มีความงามกว่าพญามาร ดังนั้น พญามารจึงยอมรับพระพุทธเจ้า เป็นการปราบมารในรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

IMG_4544.jpg

IMG_4550.jpg

พระอุโบสถใหญ่นี้ยาวถึง 9 ห้อง (ประมาณ 41 เมตรครึ่ง) ตั้งอยู่บนฐานสูงทำให้ตัวพระอุโบสถดูสูงใหญ่ตระการตา

IMG_4613.jpg

IMG_8340.jpg

IMG_8342.jpg

พระวิหารน้อย ภายในมีพระคันธราฐ พระพุทธรูปแบบทวารวดีหินสีเขียวดำขนาดใหญ่เต็มวิหาร ประทับนั่งวางพระบาทอยู่บนดอกบัวบาน ด้านหลังมีจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 3 แต่เลือนหายไปเกือบหมดแล้ว

IMG_8360.jpg

IMG_8367.jpg

วัดมหาธาตุ

IMG_4642.jpg

IMG_8369.jpg

วัดมหาธาตุ หมายถึง วัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นในสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. 1917 แต่เข้าใจว่าการก่อสร้างเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระราเมศวร

IMG_4616.jpg

IMG_4619.jpg

IMG_4622.jpg

IMG_8371.jpg

จารีตของการสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่าพระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ และวัดนั้นถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ ทั้งมักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค จารีตดังกล่าวนี้จะเริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้ แต่หากจะพิจารณาเฉพาะอาณาจักรอยุธยา จะเห็นได้ว่าธรรมเนียมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัยแรก ๆ ทีเดียว

IMG_4651.jpg

IMG_4654.jpg

IMG_4673.jpg

วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งของอาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า อีกทั้งหากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวังเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช (ฝ่ายคามวาสี) มาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา (ส่วนพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคล หรือ สำนักวัดป่าแก้ว)

IMG_4664.jpg

IMG_4716.jpg

มีเศียรพระพุทธรูปในรากต้นไม้

IMG_4724.jpg

วัดใหญ่ชัยมงคล

IMG_8429.jpg

IMG_8431.jpg

สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง) ให้สร้างเมื่อ พ.ศ.1900 เดิมชื่อว่า “วัดป่าแก้ว” ต่อมาสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ให้ใหญ่และสูงขึ้น เมื่อปี 2135 โดยคำแนะนำของสมเด็จพระวันรัตน์วัดป่าแก้ว ให้ทรงสร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่ได้ทำศึกชนะพระมหาอุปราชแห่งเมืองหงสาวดีและเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดชัยมงคล” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดใหญ่ชัยมงคล” เมื่อเข้าเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะเห็นองค์พระเจดีย์ของ วัดใหญ่ชัยมงคล ตั้งสูงเด่นอยู่ริมทุ่งเห็นแต่ไกล

IMG_4804.jpg

IMG_4807.jpg

IMG_8424.jpg

IMG_4771.jpg

พระไสยาสน์ หรือ พระนอน
วิหารพระนอนขนาดใหญ่ที่ปรักหักพัง มีพระนอนหรือพระไสยาสน์หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก พระเศียรไปทางทิศใต้ ซึ่งองค์เดิมนั้นได้ถูกนักแสวงโชคขุดทำลายจนพังไปหมดแล้ว องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่สร้างขึ้น

IMG_8413.jpg

จบทริปวันนี้ที่วัดนี้ครับ เพราะวัดต่อไปปิดซะแล้วตอนที่ไปถึง แล้วก็ขับรถกลับกรุงเทพย้อนทางเดิมตอนมา


IMG_8432.jpg


3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ฟ้าสวยมากครับ
ไม่รู้ว่าใช้ CG ช่วยหรือป่าว

chompu กล่าวว่า...

งานอยุธยาแฟร์ (AYUTTHAYA FAIR 2010) ศาลากลาง จ.พระนครศรีอยุธยา

ขอแนะนำเพื่อนๆ เที่ยวงานอยุธยาแฟร์ (AYUTTHAYA FAIR 2010) ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 4 เมษายน 2553 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ริมถนนสายเอเชีย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่อง
เที่ยวของอยุธยากันน๊ะค่ะ

ดูรายละเอียด http://talk.edtguide.com/%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%98%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b8%a3%e0%b9%8c-ayutthaya-fair-2010.html

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

koh samui hotels