เที่ยวญี่ปุ่นกับเจอาร์พาส-ตอนที่4 Kintai-kyo bridge Miyajima Itsukushima Shrine

Japan Trip with JR Pass#4 Kintai-kyo bridge Miyajima Itsukushima Shrine




I have a chance for Japan trip 10 days 9 nights and want to share my experiences #4 Kintai-kyo bridge Miyajima Itsukushima Shrine.

จันทร์ 31 มีนาคม 08 เช้านี้เรา
นั่งรถไฟJRถึงอิวาคุนิ แล้วนั่งรถบัสไปที่สะพานคินไต
ถึงสะพานคินไต เดินเล่น ถ่ายรูปกันสะใจไปเลยครับ เนื่องจากคนน้อยมาก ถ้าเทียบกับสะพานชินเคียวที่นิกโก้ที่กำลังจะไปในทริปนี้เช่นกัน ก็รู้สึกว่าสะพานนี้พิเศษกว่า เพราะมีถึง 5 โค้ง ขณะที่สะพานชินเคียวมีแค่โค้งเดียว เลยดูธรรมดากว่า




ซื้อตั๋วค่าข้ามไปฝั่งโน้น 300 เยน ข้ามสะพานไปสู่ Kikko Park ข้ามมาแล้วก็เจอกับกับดักที่น่ากลัว ก็คือร้านขายไอติมซอฟท์ครีมไง มีทุกสีเลย เมื่อวานตอนอยู่ที่นาราก็ซื้อรสชาเขียวกินไปแล้วอันละ300เยน วันนี้มาเจอที่นี่แค่อันละ 250 เยนเอง อย่างนี้ต้องกินเฉลี่ยต้นทุนซะหน่อย




Kikko Park




มีน้ำพุ




และจุดให้ถ่ายรูปซากุระสวย ๆ










ข้ามสะพานกลับ ไม่ได้ขึ้นไปชม Iwakuni Castle เพราะต้องรีบทำเวลาไปต่อ เดินมากินอุด้ง โซบะเปล่าที่ร้านหัวมุม อร่อยดีเหมือนกันแต่เสียดายที่ไม่มีแบบใส่หมู




ขึ้นรถบัสกลับไปที่สถานี Iwakuni นั่งรถไฟJRย้อนกลับไปลงที่ JR Miyajimaguchi Station เดินออกมาจากสถานีก็เห็นท่าเรือ Ferry อยู่ไม่ไกล เราไปขึ้นเรือที่นั่นเพื่อข้ามไปที่เกาะ Miyajima




ใกล้เกาะแล้วก็เห็นโทริอิ Torii กลางน้ำ ลงเรือแล้วก็เดินไป Itsukushima Shrine ระหว่างทางมีกวางเต็มไปหมดเลย กวางที่นี่ค่อนข้างก้าวร้าว เดินถือแผนที่อยู่พอเข้าไปใกล้กวางปั๊บมันก็หันหัวมางับแผนที่ไปกินเฉยเลย เกิดการยื้อแย่งแผนที่กันกับกวาง ในที่สุดก็ได้แผนที่กลับมาครึ่งแผ่น โดนกวางกินไปส่วนนึง ในโบรชัวเขียนไว้ว่ากวางที่นี่ค่อนข้างดุ และเขาก็ห้ามให้อาหารกวางด้วย ไม่เหมือนที่นาราเลย



ที่นี่ก็มีเจดีย์5ชั้นเหมือนกัน






ค่าเข้าชมคนละ 300 เยน พอดูและถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็เดินกลับไปที่ท่าเรือ ระหว่างทางแวะกินfishcakeและหอยนางรมปิ้งแสนอร่อย



อากาศเย็น มีฝนปรอย



กลับไปต่อชินคันเซ็นที่Hiroshima เวลาไม่พอเลยไม่ได้แวะPeace Memorial Park ไว้มีโอกาสคงจะได้ไปอีก

เที่ยวญี่ปุ่นกับเจอาร์พาส-ตอนที่3 Nara Park Kofukuji Todaiji Kyoto Byodo-in Temple Fushimi-Inari Shrine

Japan Trip with JR Pass#3 Nara Park Kofukuji Todaiji Kyoto Byodo-in Temple Fushimi-Inari Shrine




I have a chance for Japan trip 10 days 9 nights and want to share my experiences #3 Nara Park Kofukuji Todaiji Kyoto Byodo-in Temple Fushimi-Inari Shrine.

อา 30 มีนา 08 เดินทางไปนารา ใช้เวลา 40 นาที ถึงสถานีก็ขอแผนที่จากอินฟอร์เมชั่น ได้รับคำแนะนำให้เดินเที่ยวให้รอบเมือง เราก็เดินก็เดินเพราะมีจุดแวะหลายจุดเหมือนกันแล้วขากลับค่อยนั่งรถบัสทีเดียว เสียแต่ฝนพรำหน่อย ๆ ตามพยากรณ์อากาศที่ดูในทีวีเมื่อคืน ดูจากแผนที่แล้วถ้ามาด้วยKintetsu จะเดินน้อยกว่าเยอะเลย
เดินผ่านสถานี Kintetsu แต่ดันลืมเดินเข้าไปดูเขาตำโมจิโชว์ทั้งที่เรามาตอนวันหยุดแล้วแท้ ๆ เมื่อเดินมาถึง Nara Park (Deer Park) เราก้ได้เห็นกวางนาราที่ร่ำลือกัน พอมันเห็นเราก็เดินหนีท่าทางต้องใช้ขนมล่อ แฮะ กวางที่นี่จะมีตัวที่เป็นหัวโจกอยู่ด้วย ถ้ากวางตัวอื่นไปขอขนมจากนักท่องเที่ยวมันจะไล่ให้ไปไกล ๆ แล้วเข้าไปสวมรอยแทน




จุดเลี้ยงกวางจุดแรกที่เจอ ถ้าเดินมาจากสถานีJR




แล้วเราก็มาถึง Kofukuji Temple ที่มีเจดีย์ที่สูงเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น แล้วที่สูงอันดับหนึ่งคือที่ไหนหว่า




ใกล้ ๆ อีกนิดกับ the five-storey Pagoda เจดีย์ 5 ชั้น ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา




ที่นี่ก็มีกวางให้เลี้ยง เลยอดใจไม่ไหวต้องซื้อขนมมาเลี้ยงกันอีกรอบ




อีกด้านหนึ่งของวัด




แวะเข้าไปถ่ายรูปต้นซากุระแสนสวยที่ศาลเจ้าฮิมุโระ Himuro Shrine มีต้นซากุระแสนสวยอยู่ 2 ต้น เป็นสองต้นที่คุ้มค่าแก่การแวะไปมากครับ ตอนเราเข้าไปมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวสองคู่ไปถ่ายรูปอยู่ก่อนแล้ว รูปนี้ไม่ใช่สองต้นที่พูดถึงนะครับ




รูปนี้ใช่ครับ




ไปถึงTodaiji Temple วัดที่มีอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้จะถูกสร้างขึ้นใหม่และมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม เหลือเพียง2ใน3ของขนาดเดิมก็ตาม ค่าชมวัดคนละ 500 เยน




ได้ทำบุญกระเบื้องหลังคาโบสถ์ด้วยแผ่นละ 1000เยน




ภายในมี The Great Buddha หลวงพ่อโตในโบสถ์




ในวัดมีเสาให้ลอดด้วย




ส่วนมากจะเป็นเด็ก ๆ เข้าคิวลอด



หลวงพ่อแกะสลักจากไม้




Byodo-in Temple ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ 10เยน ลงที่สถานี UJI ใช้เวลา 30 นาทีจากนารา ค่าเข้าชมคนละ 600 เยน




ฝนตกเลยถ่ายรูปไม่ค่อยถนัด ชมพิพิธภัณฑ์ด้านในด้วย




Fushimi-Inari Shrine ฝนตกอีกเช่นกัน ไม่เสียค่าชม




มืดแล้ว

เที่ยวญี่ปุ่นกับเจอาร์พาส-ตอนที่2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land

Japan Trip with JR Pass#2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land



I have a chance for Japan trip 10 days 9 nights and want to share my experiences #2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land.



"ออกเดินทางจากสถานีชินอิมามิยะไปสถานีเกียวโต ใช้เวลา 1ชั่วโมงถามทางที่อินฟอร์เมชั่นเกียวโต และจะจองตั๋วRomantic Train ตามที่ทางอินฟอร์เมชั่นบอก แต่สถานีบอกว่าตั๋วเต็มแล้วให้ไปซื้อที่สถานีของ Romantic Trainเลย ก็เลยต่อรถไฟเจอาร์สายซากาโน่จากสถานีเกียวโตไปลงสถานีSAGA ARASHIYAMA

ไปถึงสถานีรถไฟ เดินไปสถานีของสายRomantic ซื้อตั๋วราคา 600 เยน รอบแรกที่ไปได้คือ 11.00 ต้องรออีก 40นาที รอเวลารถไฟออก"



"Romantic Train (Sagano) 25 นาที จากสถานีSaga Torokko ไปลงที่สถานี Kameoka Torokko ตอนแรกขึ้นไปนึกว่านั่งตรงไหนก็ได้ของตู้เรา ปรากฏว่านั่งตรงไหนก็โดนไล่ที่ พอดูตั๋วของคนที่มาไล่ที่เราก็แปลกใจว่าทำไมตั๋วของเขาที่เลขที่นั่ง แต่ของเราไม่มี เลยถามเขาว่าแล้วตั๋วแบบของเราจะนั่งตรงไหน ก็ไม่มีใครตอบ จนมีคนญี่ปุ่นคนนึงทำท่ายืน ก็เลยเข้าใจแล้วว่าตั๋วเราเป็นตั๋วยืนนั่นเอง ถึงได้ไม่มีหมายเลขที่นั่ง แสดงว่าตั๋วที่จองที่สถานีเกียวโต เป็นตั๋วระบุที่นั่ง แต่ถ้ามาซื้อที่สถานีนี่จะเป็นตั๋วยืน

ระหว่างทางรถไฟจะจอดเป็นระยะ ๆ ให้ชมวิวประมาณ2-3ครั้ง แล้วก็จะมีคนใส่หน้ากากปิศาจขึ้นมาบนรถไฟด้วยเดาว่ามาไล่โชคร้ายออกไปกระมัง วิวระหว่างทางสวยมาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกดีที่ได้ตั๋วยืน เพราะมองเห็นวิวทั้งสองฝั่ง เสียดายจริง ๆ ที่ซากุระยังไม่บานแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นวิวจะยิ่งสวยกว่านี้อีกมาก"



"มองไปที่แม่น้ำ จะเห็นเรือที่แล่นอยู่ซึ่งสามารถนั่งย้อนกลับมาได้ แต่เราไม่นั่งเพราะจะเสียเวลามากกว่านั่งรถไฟ และยังไม่มีซากุระให้ดูด้วย"

" เดินเท้าไปสถานีJR Umahori เดินไปถ่ายรูปไป"



"ซากุระยังตูมอยู่เลย มีบานบ้างบางต้น"



"ไป Toei Uzumasa Movie Land ที่มีจัดงานSakura Festival นั่งรถไฟเจอาร์จากสถานี๊ Umahori ย้อนกลับไปลงสถานี Hanazono ออกจากด้านหน้าสถานีแล้วเดินไปทางซ้ายเรื่อย ๆ เจอวัดหรือศาลเจ้าเล็ก ๆ แต่มีซากุระบานแล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องขอเข้าไปถ่ายรูปซะหน่อย จากนั้นเดินไปชอปปิ้งไป ผ่านร้าน Saver มีขนมอร่อย ๆ หลายอย่าง ราคาถูกกว่าร้านปกติด้วย นอกจากนี้ยังมี Bookoff ให้แวะอีก กว่าจะถึงโรงถ่ายโตเอะ ปรากฏว่าทุกคนถือถุงขนมที่ชอปกันมาคนละถุงสองถุงซะแล้ว หนักไม่ใช่เล่นด้วยสิ

พอเดินมาถึงโรงถ่ายโตเอะ ควักเงินจ่ายค่าเข้าไปคนละ 2200 เยน แล้วไปหาบะหมี่กินกันในนั้น มีทั้งอุด้งและโซบะ แล้วก็เดินเที่ยวโรงถ่าย เป็นหมู่บ้านซามูไรสมัยก่อน มีโชว์ให้ดูทั้งบนเวทีและโชว์กลางแจ้งกันสด ๆ และผมก็เดินไปเจอสระน้ำที่มีสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสโผล่ออกมาพ่นน้ำให้ดูสักพักแล้วก็ดำน้ำไปกบดานอยู่ใต้น้ำเหมือนเดิม"

"ฟิกเกอร์ 1:1"

"วิวนี้เหมือนห้องของโชกุนเลย พอพวกเราถ่ายรูปที่มุมนี้กัน คนญี่ปุ่นเดินมาเห็นก็ร้องสึโค่ยกันใหญ่เลย แล้วต่อคิวรอถ่ายรูปบ้าง"

"แม่มดน้อยโดเรมี"

"ไอ้มดแดง Masked Rider"

"เดินจนโรงถ่ายปิดห้าโมงเย็น เสร็จแล้วตอนแรกตั้งใจจะไปเดินย่ำแสงสีเกียวโตตอนกลางคืนที่ Gion และ สวนMaruyama Park ที่จะมีประดับไฟ แต่ท่าทางจะเดินกันต่อไม่ไหวเนื่องจากของที่หอบหิ้วซื้อกันมา และก็เริ่มเดี้ยงกันแล้ว รวมทั้งคนนำทางคือผมเองด้วยก็เลยตัดสินใจกลับโอซาก้าไปเก็บของที่โรงแรมก่อนดีกว่าจากนั้นก็เปลี่ยนแผนเป็นเดินทางไปกินปู ร้านปูยักษ์ KANI DORAKU ที่ Dotonbori ไปถึงร้านดูเมนูคอร์สที่หน้าร้านแล้วตัดสินใจเลือกคอร์ส 3990 เยน ไปกัน 4คน สั่งมา3เซ็ต กินกันอิ่มทีเดียว ถ้าสั่งครบคน 4ชุดคงกินไม่หมด เนื้อปูก็อร่อยดี แต่ไม่หวานเท่าปูม้าบ้านเรา กินให้รู้ว่ารสชาติมันเป็นเช่นนี้เอง อิ่มหนำสำราญกันสมใจอยากแล้ว มีไอติมราดชาเขียวตบท้ายให้ด้วย อร่อยสุด ๆ"