Japan Trip พาแม่เที่ยวญี่ปุ่น Episode I ตอนที่1 พระใหญ่ คามาคุระ และ เทศกาล ทานาบาตะ ที่ ฮิราทสึกะ Kamakura (鎌倉市) Great Buddha (Daibutsu 大仏) & Tanabata (七夕) @ Hiratsuka (平塚市)
คืนวันศุกร์เราก็เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีลุ้นว่าจะไปทันหรือเปล่า เพราะแท็กซี่ที่นัดไว้ให้มารับมัวแต่หลงทางมาช้ากว่าเวลาที่นัดไว้ครึ่งชั่วโมง แต่ก็มาทันเช็คอิน ไม่ได้เลทอะไร สารภาพว่าเพิ่งเคยเห็นรูปปั้นกวนเกษียรสมุทรเป็นครั้งแรกทั้งที่เดินทางมาหลายครั้งแล้ว ก็เลยสงสัยว่าครั้งก่อน ๆ เราไม่ได้เข้าทางประตูนี้หรือไงหว่า ทำไมถึงไม่เห็น
ขึ้นไปบนเครื่องบินก็ไม่ได้สนใจดูหนัง อยากจะนอนให้หลับมากกว่าพรุ่งนี้จะได้มีแรงเที่ยว ตื่นมาตอนเช้าก็เริ่มเห็นวิวญี่ปุ่นแล้วครับ
ผ่านตม.มาแบบสบาย ๆ แล้วก็หาซื้อตั๋ว Nex+Suica และเปลี่ยนExchange Order JR เป็นตั๋ว JR Passจริง ๆ และเสียเวลาไล่ตารางรถไฟที่เตรียมไว้แต่ไม่มีเวลาดูที่กรุงเทพฯ มายืนดูที่นี่และจดรอบที่นั่งข้ามจังหวัดยาว ๆ ออกมาเป็นลิสต์เพื่อจองตั๋วล่วงหน้า ตรงนี้ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงเพราะเราไม่ได้เตรียมเอาไว้ก่อน พอจดลิสต์ออกมาครบหมดเอารายการจองตั๋วไปยื่นพร้อมกับแบบฟอร์มแลก JR Pass ที่กรอกลายละเอียดตามพาสปอร์ต ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่าที่สนามบินสามารถจองตั๋วได้แค่เที่ยวแรกเท่านั้น เที่ยวที่เหลือต้องไปจองที่เคาน์เตอร์JRที่สถานีรถไฟ เราก็กร่อยเลย อุตส่าห์ยืนทำตั้งนาน รู้งี้ก็ทำแค่รายการแรกก็พอ ที่เหลือค่อยไปนั่งทำบนรถไฟก็ได้ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ย่อมเสียเวลาเป็นธรรมดา หลังจากนั้นก็นั่งนาริตะเอ็กซ์เพรสไปลงสถานีโอฟุนะ แล้วทำรายการจองตั๋วที่เหลือที่สถานีนี้ และด้วยความไม่รอบคอบของเราก็เกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น แต่จะขอข้ามไปก่อน ไว้เกิดเหตุแล้วจะมาเฉลยนะครับ
แล้วเราก็ต่อรถไฟอีกสายหนึ่งไปสถานีฟูจิซาวะ ที่ที่เราจองโรงแรมไว้ เดิมอยากจองโรงแรมที่ฮิราทสึกะที่จัดงานทานาบาตะ แต่ห้องเต็มหมดทุกโรงแรมที่หาได้เลย ก็เลยพยายามหาเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ แทน ไปเจอโตโยโกะอินน์ ยอดฮิตของคนแถวนี้ แต่ด้วยความเห็นส่วนตัวที่ขอเลือกโรงแรมนี้เป็นอันดับท้าย ๆ ขอให้เป็น last resort ที่พี่งสุดท้ายที่จะเลือกครับ เพราะถึงแม้ข้อดีที่สุดของที่นี่คือใกล้สถานีรถไฟ แต่มีข้อเสียร้ายแรงอยู่คือไม่มีห้องอาบน้ำรวม ที่มีบ่อน้ำใหญ่ ๆ ให้แช่ครับ ไปญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากจะแช่น้ำร้อนบ่อใหญ่ครับ ก็เลยหาโรงแรมอื่นต่อไป ในที่สุดก็ได้ที่ตรงตามสเป็ค อยู่ที่เมืองฟูจิซาวะเช่นกัน ลงจากสถานีรถไฟแล้วก็คลำทางไปตามแผนที่ ๆ โรงแรมให้ไว้ บวกกับแผนที่ในสถานีรถไฟ เราก็ยังงง ๆ เส้นทางอยู่ ก็เลยถามทางจากคนญี่ปุ่น แล้วก็เจอคนใจดีอีกแล้ว เขาดูแล้วก็บอกว่าจะพาไปส่งถึงหน้าโรงแรมเลย เราก็เดินตามเขาไป แอบเช็คแผนที่ของตัวเองไปด้วย พอมาถึงแยกนึง ถ้าดูตามแผนที่แล้วน่าจะต้องเลี้ยวขวา ปรากฏว่าคนญี่ปุ่นที่นำทางเลี้ยวซ้ายเฉยเลย เราก็เฮ้ย ทำไมคนละทางกับในแผนที่หว่า
แต่ก็เดินตามเขาไปนะ ก็เจ้าถิ่นนี่นา เดินไปอีกนิดนึงก็ถึงโรงแรม อ้าวแล้วไอ้แผนที่นี่ไหงมันบอกให้เลี้ยวขวาล่ะนั่น งงจริง ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ยังไงเราก็มาถึงโรงแรมแล้ว พวกเราก็ขอบคุณ ร่ำลาคนญี่ปุ่นใจดีคนนั้น แล้วพวกเราก็ตื่นตาตื่นใจกับรอบๆ โรงแรมเพราะด้านล่างโรงแรมเป็นศูนย์การค้ามีร้านขายของด้วย ยังไม่เดินเข้าไปในโรงแรม ผู้มีพระคุณของเราก็ย้อนกลับมาอีก ทำนองเป็นห่วงว่าทำไมเรายังไม่เข้าไปในโรงแรมอีก กลัวเราจะเดินหลงไปที่อื่นอีก ซึ้งน้ำใจคนญี่ปุ่นจริง ๆ คนนี้คุยกันแล้วเขาเคยมาเที่ยวเมืองไทยด้วย แถมไปฟูลมูนปาร์ตี้ที่พงันมาด้วย
เช็คอินแล้วเราก็เริ่มเที่ยวกันเลย เริ่มที่พระใหญ่ คามาคุระ แต่เส้นทางที่ไป เราจะไปทางรถไฟเลียบชายทะเล สาย Enoden line ไปที่สถานี Hase จากเส้นทางที่เราใช้จะย้อนทางกับการเดินทางมาจากโตเกียว ดังนั้นเราจะผ่านเกาะ Enoshima ก่อน รถไฟสายนี้วิ่งผ่านตึกผ่านบ้านเรือนไปอย่างใกล้ชิดมาก ส่วนวิวทะเลที่เคลมว่าเป็นสถานีที่สวยติดอันดับของญี่ปุ่นก็รู้สึกเฉย ๆ นะครับไม่ได้รู้สึกว่าสวยอะไรมากมาย ถ้าเทียบกับเส้นทางเลียบทะเลของฮอกไกโด
ป้ายบอกทางไป วัด Kotokuin
เอาป้ายค่าเข้าวัดมาให้ดู
ป้ายบอกเวลาเปิดปิดวัด
ได้เข้ามาชมบารมีหลวงพ่อโต แห่งคามาคุระอีกครั้ง
ครอบครัวเรามีความคุ้นเคยผูกพันกับหลวงพ่อโตองค์นี้ เพราะคุณตาคุณยาย เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นและถ่ายรูปที่ระลึกไว้ที่นี่ ใส่กรอบไว้ที่บ้าน ลูกหลานที่บ้านก็เห็นจนคุ้นตา เลยเกิดความผูกพันโดยไม่รู้ตัว เมื่อมีโอกาสมาญี่ปุ่นก็อยากมาที่นี่เพื่อมาไหว้ท่าน
The Great Buddha @ Kotokuin Temple (Daibutsu 大仏) Kamakura (鎌倉市)
จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ฮิราทสึกะ เพื่อเดินเที่ยวเทศกาลทานาบาตะ พอมาถึงสถานีรถไฟคนเยอะมาก แทบจะไหลไปเลย
ตึกหน้าสถานีรถไฟ
ตำรวจถือป้ายบอกทางเดินชมเทศกาล
แม่ค้าขายขนมในเทศกาล มีแจกให้ชิมฟรีด้วย ชิมแล้วเค็ม ๆ ไม่ถูกปาก
ป้ายเขียนคำอธิษฐานขอพร
ซุ้มโคมประดับสวยงาม
อันนี้ประดับตุ๊กตานักรบ
โคมประดับและผู้คนมากมาย
ชมบรรยากาศงานแล้วก็มาดูของกินกันบ้าง อันนี้เป็นช็อกโกบานาน่า
สายไหมญี่ปุ่น ใส่ถุงการ์ตูนสวยงามล่อตาล่อใจเด็ก
มาดูการแสดงบนเวทีบ้าง คนมุงกันเยอะเลย ผู้ปกครองก็เอาลูกขึ้นหลังชมการแสดง
เป็นการแสดงตีกลองญี่ปุ่น
ซูมหน้าน้องที่ตีกลองซะหน่อย ท่าทางมุ่งมั่นมาก
แวะเข้าไปดูในตึกอำนวยการก็เห็นมีนิทรรศการแสดง
อันนี้เป็นพัด
รูปภาพต้นไม้
ตรงนี้เขาปิดถนนแล้วเปิดซุ้มขายของกันเลย เดินกันจนเหนื่อย และหิวแล้วก็เลยหาของกินกันตามซุ้มนี่แหละ เจอเมลอนที่ขายในงานถูกมากลูกละ 400เยนเท่านั้น ถึงจะไม่หวานเท่าที่ฟาร์มโทมิตะ แต่ก็คุ้มราคา เขาขายทีละครึ่งลูก ครึ่งละ 200เยน เสียตรงไม่หั่นชิ้นให้ แต่ให้ช้อนตักโยเกิร์ตมาอันนึงต้องขูดเนื้อกินเอง กว่าจะกินหมดก็นานเลย
ซื้อแล้วก็หาที่นั่งกิน เห็นเจ้าบ้านนั่งกินกันที่เกาะกลางถนนแล้ว เราก็ทำตามเจ้าบ้านเลย สรุปแล้ว งานทานาบาตะที่นี่ก็คล้ายงานภูเขาทองบ้านเรานี่เอง แต่จัดกันยิ่งใหญ่ขนาดปิดถนนกันทั้งเมืองเลย เห็นคนที่นี่เยอะเแบบนี้แล้วก็นึกในใจว่าโชคดีที่จองที่พักที่นี่ไม่ได้ ไม่งั้นต้องลากกระเป๋าฝ่าฝูงชนไปหาโรงแรมคงจะไม่สนุกแน่ ๆ เราเดินกันจนมืดแล้วก็นั่งรถไฟกลับไปแช่น้ำร้อนที่โรงแรมที่ฟูจิซาวะ
แถมท้ายด้วยรูปโรงแรมที่พักละกันครับ
วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Japan Trip พาแม่เที่ยวญี่ปุ่น Episode I ตอนที่1 Kamakura Great Buddha (Daibutsu) & Tanabata @ Hiratsuka
ป้ายกำกับ: ญี่ปุ่น, ทานาบาตะ, เทศกาล, เที่ยวญี่ปุ่น, พระใหญ่, Daibutsu, Great Buddha, Hiratsuka, JAPAN TRIP, KAMAKURA, Tanabata
เขียนโดย GM TOUR ที่ 08:40
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น